รายละเอียด
เลี้ยวขวาตามจราจรโบก ชนอีกคันที่แยกวัดใจ ใครผิด?
เช้าวันจันทร์แสนวุ่นวาย บิ๊กกำลังรีบบึ่งไปทำงาน เพราะออกสายกว่าเดิมมาก เมื่อวานดูบอลดึกไปหน่อย งานก็ค้างอีกเยอะ!!
บิ๊กกำลังจอดรอสัญญาณอยู่ที่สามแยกวัดใจ แยกประจำที่ขับผ่านบ่อยๆ
ตำรวจจราจรก็ส่งสัญญาณให้เลี้ยวขวาได้เลย บิ๊กก็ตบไฟเลี้ยวขวาทันที และเหยียบคันเร่งเพื่อข้ามแยก
บิ๊กเร่งเครื่องออกตัวอย่างเร็ว เพราะกลัวจะไปช้า
แต่ในขณะเดียวกันก้อง ที่ขับรถมาจากฝั่งตรงข้ามก็กำลังเลี้ยวซ้าย ทำให้รถบิ๊กกับก้องชนกันเต็มๆ
บิ๊กเปิดประตูรถลงมา อารมณ์ขึ้นมาก ที่อยู่ดีๆ ก็โดนชน จะลงมาเอาเรื่องกับก้อง ฝั่งก้องก็งงว่าอยู่ดีๆ รถคันนี้มาได้ยังไง
บิ๊กเริ่มหัวเสีย โทษก้องเพราะไปทำงานสาย แถมต้องกลับไปฟังนายบ่นอีก ส่วนก้องก็เริ่มเซ็งเบาๆ
ทั้งคู่เริ่มอารมณ์ขึ้นตามอากาศเมืองไทย เถียงกันไปกันมา สรุปไม่ได้ว่าใครผิด?
ไม่นานหลังจากเกิดอุบัติเหตุ พนักงานประกันภัยก็รีบมาอย่างรวดเร็ว พร้อมสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พนักงานประกันอธิบายให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจ
สรุป ตามเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นเป็นที่ยุติ แม้ว่าตำรวจจราจรโบกให้รถคุณบิ๊ก เลี้ยวขวาได้ แต่คุณบิ๊ก ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ เมื่อเห็นว่าปลอดภัย ไม่ให้รถไปกีดขวางการจราจรของรถคันอื่นและต้องไม่ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถ และรถ B เลี้ยวซ้ายโดยไม่ให้ทางแก่รถเลี้ยวขวาก่อน เพราะฉะนั้น เป็นกรณีที่ต่างฝ่ายต่างประมาททำให้เกิดอุบัติเหตุ
1. คุณก้องประมาทเพราะเป็นการฝ่าฝืนต่อ พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕๑ วรรคท้าย ในกรณีที่มีรถเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวาพร้อมกัน ให้รถเลี้ยวซ้ายให้ทางแก่รถเลี้ยวขวาก่อน ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
มาตรา ๕๑ การเลี้ยวรถ ให้ปฏิบัติดังนี้
(๑) ถ้าจะเลี้ยวซ้าย
(ก) ในกรณีที่ไม่ได้แบ่งช่องเดินรถไว้ ให้ผู้ขับขี่ขับรถชิดทางเดินรถด้ายซ้าย
(ข) ในกรณีที่มีการแบ่งช่องเดินรถไว้ และมีเครื่องหมายจราจรแสดงให้เลี้ยวซ้ายได้ ให้ผู้ขับขี่ขับรถในช่องเดินรถสำหรับที่จะเลี้ยวซ้าย ทั้งนี้ ก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่าสามสิบเมตร
(ค) ในกรณีที่มีช่องเดินรถประจำทางอยู่ทางเดินรถด้านซ้ายสุด ให้ผู้ขับขี่ขับรถชิดช่องเดินรถประจำทางก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่าสามสิบเมตร และจะเลี้ยวรถผ่านเข้าไปในช่องเดินรถประจำทางได้เฉพาะในบริเวณที่มีเครื่องหมายจราจรให้เลี้ยวรถผ่านได้เท่านั้น
(๒) ถ้าจะเลี้ยวขวา
(ก) สำหรับทางเดินรถที่ไม่ได้แบ่งช่องเดินรถไว้ ให้ผู้ขับขี่ขับรถชิดทางด้านขวาของแนวกึ่งกลางของทางเดินรถก่อนถึงทางเลี้ยไม่น้อยกว่าสามสิบเมตร
(ข) สำหรับทางเดินรถที่ได้แบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่สองช่องขึ้นไป ให้ผู้ขับขี่ขับรถชิดทางด้านขวาสุดของทางเดินรถหรือในช่องที่มีเครื่องหมายจราจรแสดงให้เลี้ยวขวาได้ ทั้งนี้ ก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่าสามสิบเมตร
(ค) ในกรณีที่มีช่องเดินรถประจำทางอยู่ทางเดินรถด้านขวาสุด ให้ผู้ขับขี่รถชิดช่องเดินรถประจำทางก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่าสามสิบเมตร และจะเลี้ยวรถผ่านเข้าไปในช่องเดินรถประจำทางได้เฉพาะในบริเวณที่มีเครื่องหมายจราจรให้เลี้ยวรถผ่านได้เท่านั้น
(ง) สำหรับทางเดินที่มีเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่แสดงสัญญาณจราจรด้วยมือและแขน ให้ผู้ขับขี่ขับรถเลี้ยวขวาผ่านไปได้โดยไม่ต้องอ้อมเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่
(จ) เมื่อรถอยู่ในทางร่วมทางแยก ผู้ขับขี่ต้องให้รถที่สวนมาในทางเดินรถทางเดียวกันผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงให้เลี้ยวขวาไปได้
(๓) ถ้าจะเลี้ยวอ้อมวงเวียนหรือเกาะที่สร้างไว้ ให้ผู้ขับขี่ขับรถอ้อมไปทางซ้ายของวงเวียนหรือเกาะนั้น
ในกรณีตามข้อ (๑) และ (๒) ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังและต้องหยุดให้ทางแก่ผู้กำลังข้ามทางและรถที่กำลังผ่านทางร่วมทางแยกจากทางด้านอื่นก่อน เว้นแต่ในกรณีที่มีรถเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวาพร้อมกัน ให้รถเลี้ยวซ้ายให้ทางแก่รถเลี้ยวขวาก่อน
2. คุณบิ๊กเป็นฝ่ายประมาท เพราะเป็นการฝ่าฝืนต่อ พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕๒ เป็นการกีดขวางการจราจรของรถอื่น เนื่องจากในภาพที่ 2 ขณะที่คุณบิ๊กเลี้ยวขวาล้ำกึ่งกลางช่องทางเดินรถอื่น ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
มาตรา ๕๒ ในทางเดินรถที่สวนกันได้ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่กลับรถหรือเลี้ยวรถทางขวาในเมื่อมีรถอื่นสวนหรือตามมาในระยะน้อยกว่าหนึ่งร้อยเมตร เว้นแต่เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรของรถอื่น
**หมายเหตุ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นการพิจารณาว่าฝ่ายใดประมาทนั้นขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานต่างๆ คำถามต้องให้ชัดเจน มิฉะนั้นทำให้ตอบคลาดเคลื่อนได้
Cr : tqm